ปัญหาเกี่ยวกับหน่วยความจำ
ใช้ข้อมูลนี้ในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับหน่วยความจำ
หน่วยความจำระบบที่แสดงน้อยกว่าหน่วยความจำจริงที่ติดตั้ง
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า:
- คุณได้ติดตั้งหน่วยความจำประเภทที่ถูกต้อง (ดู ข้อมูลจำเพาะ)
โหมดการมิเรอร์หน่วยความจำ หรือ Sparing หน่วยความจำไม่อธิบายความขัดแย้ง
ในการระบุสถานะของ DIMM ให้รีสตาร์ทโหนดคอมพิวท์และกด F1 เพื่อแสดงอินเทอร์เฟซ Lenovo XClarity Provisioning Manager จากนั้นคลิก
- หากเพิ่งติดตั้งหน่วยความจำใหม่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีการรายงานเหตุการณ์ที่ระบุว่าไม่มีการกำหนดค่าในบันทึกเหตุการณ์ หากมีเหตุการณ์ใดๆ ให้แก้ไขปัญหาเหล่านั้นหมายเหตุDIMM ได้รับการตรวจสอบว่าเป็นโมดูล Lenovo หรือ IBM ของแท้โดยซอฟต์แวร์ UEFI หาก DIMM ที่ไม่ใช่ของแท้ใดๆ ถูกตรวจพบ ข้อความแสดงข้อมูลจะปรากฏขึ้นในบันทึกเหตุการณ์ของระบบ และประสิทธิภาพของหน่วยความจำอาจมีข้อจำกัด Lenovo Warranty ของคุณไม่ครอบคลุม DIMM ที่ไม่ใช่ของแท้
- หากโหนดคอมพิวท์เพิ่งได้รับการติดตั้ง เคลื่อนย้าย หรือซ่อมบำรุง ตรวจสอบให้แน่ใจว่า DIMM เสียบเข้าขั้วต่ออย่างถูกต้อง (ดู ติดตั้งโมดูลหน่วยความจำ)
ตรวจสอบว่าเปิดใช้งาน DIMM ทั้งหมด โหนดคอมพิวท์อาจปิดใช้งาน DIMM โดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบปัญหา หรือมีการปิดใช้งาน DIMM ด้วยตนเอง
ในการระบุสถานะของ DIMM ให้รีสตาร์ทโหนดคอมพิวท์และกด F1 เพื่อแสดงอินเทอร์เฟซ Lenovo XClarity Provisioning Manager จากนั้นคลิก
เรียกใช้การวินิจฉัยหน่วยความจำ เมื่อคุณเริ่มโหนดคอมพิวท์และกด F1 อินเทอร์เฟซ Lenovo XClarity Provisioning Manager จะแสดงตามค่าเริ่มต้น คุณสามารถดำเนินการวินิจฉัยหน่วยความจำจากอินเทอร์เฟซนี้ จากหน้าการวินิจฉัย ให้คลิก
- ถอด DIMM ออกจนกว่าโหนดคอมพิวท์จะแสดงจำนวนหน่วยความจำที่ถูกต้อง ติดตั้ง DIMM ทีละหนึ่งตัวจนกว่าคุณจะสามารถระบุได้ว่า DIMM ตัวใดที่ไม่ทำงานอย่างเหมาะสม ถอด DIMM ดังกล่าวและเปลี่ยนเป็น DIMM ที่ทำงานอย่างเหมาะสมหมายเหตุหลังจากติดตั้งหรือถอด DIMM แล้ว คุณจะต้องแก้ไขและบันทึกข้อมูลการกำหนดค่าใหม่โดยใช้ Setup Utility เมื่อคุณเปิดโหนดคอมพิวท์ ระบบจะแสดงข้อความที่ระบุว่ามีการเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่าหน่วยความจำ กด F1 เพื่อแสดงอินเทอร์เฟซ
Lenovo XClarity Provisioning Manager แล้วบันทึกการกำหนดค่า - หากยังคงมีปัญหาอยู่ โปรดติดต่อบริการสนับสนุนของ Lenovo
โมดูลหน่วยความจำหลายโมดูลในช่องถูกระบุว่ามีความบกพร่อง
- ใส่โมดูลหน่วยความจำกลับเข้าที่ แล้วรีสตาร์ทโซลูชัน
- ถอดโมดูลหน่วยความจำที่มีหมายเลขสูงสุดของกลุ่มที่ถูกระบุออก และเปลี่ยนใหม่ด้วยโมดูลหน่วยความจำที่ใช้งานได้หมายเลขเดียวกัน แล้วรีสตาร์ทโซลูชัน ทำซ้ำหากจำเป็น หากยังพบความบกพร่องหลังจากเปลี่ยนโมดูลหน่วยความจำที่ระบุทั้งหมดแล้ว ให้ไปที่ขั้นตอนที่ 4
- ใส่โมดูลหน่วยความจำที่ถอดออกมากลับไปยังขั้วต่อเดิมทีละโมดูล รีสตาร์ทโซลูชันหลังจากใส่โมดูลหน่วยความจำแต่ละโมดูล จนกว่าโมดูลหน่วยความจำจะทำงานบกพร่อง เปลี่ยนโมดูลหน่วยความจำที่บกพร่องแต่ละโมดูลด้วยโมดูลหน่วยความจำที่ใช้งานได้ รีสตาร์ทโซลูชันหลังจากเปลี่ยนโมดูลหน่วยความจำแต่ละครั้ง ทำซ้ำขั้นตอนที่ 3 จนกว่าคุณจะทดสอบโมดูลหน่วยความจำที่ถอดออกมาหมดทุกหน่วย
- เปลี่ยนโมดูลหน่วยความจำที่มีหมายเลขสูงสุดของกลุ่มที่ถูกระบุ แล้วรีสตาร์ทโซลูชัน ทำซ้ำหากจำเป็น
- ย้อนกลับโมดูลหน่วยความจำระหว่างช่องต่างๆ (ของโปรเซสเซอร์เดียวกัน) แล้วรีสตาร์ทโซลูชัน หากปัญหาเกี่ยวข้องกับโมดูลหน่วยความจำ ให้เปลี่ยนโมดูลหน่วยความจำที่บกพร่อง
- (ช่างเทคนิคที่ได้รับการอบรมเท่านั้น) ติดตั้งโมดูลหน่วยความจำที่บกพร่องลงในขั้วต่อโมดูลหน่วยความจำสำหรับโปรเซสเซอร์ 2 (หากติดตั้งไว้) เพื่อตรวจสอบว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่โปรเซสเซอร์หรือขั้วต่อโมดูลหน่วยความจำ
- (ช่างเทคนิคที่ได้รับการอบรมเท่านั้น) เปลี่ยนแผงระบบ
ความพยายามเปลี่ยนเป็นโหมด DCPMM อื่นไม่สำเร็จ
หลังจากเปลี่ยนโหมด DCPMM และระบบรีสตาร์ทสำเร็จแล้ว หากโหมด DCPMM ยังคงเดิมอยู่แทนที่จะเปลี่ยนไป ให้ตรวจสอบความจุ DRAM DIMM และ DCPMM เพื่อดูว่าตรงตามข้อกำหนดของโหมดใหม่หรือไม่ (โปรดดู การติดตั้ง DC Persistent Memory Module (DCPMM))
Namespace เพิ่มเติมปรากฏขึ้นมาในพื้นที่แบบ Interleave
หากมีสอง Namespace ที่สร้างขึ้นอยู่ในพื้นที่แบบ Interleave หนึ่ง VMware ESXi จะละเว้น Namespace ที่สร้างขึ้น และสร้าง Namespace เพิ่มขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งระหว่างการบูทระบบ เมื่อต้องการแก้ไขปัญหานี้ ให้ลบ Namespace ที่สร้างขึ้น ใน Setup Utility หรือในระบบปฏิบัติการ ก่อนการบูตครั้งแรกด้วย ESXi