Skip to main content

การกำหนดค่าการเข้าถึงเครือข่าย

เมื่อคุณเริ่มตั้งค่า Lenovo XClarity Administrator คุณสามารถกำหนดค่าอินเทอร์เฟซเครือข่ายได้สูงสุดสองชุด นอกจากนี้ คุณต้องระบุว่าจะใช้อินเทอร์เฟซใดในการปรับใช้ระบบปฏิบัติการ ภายหลังการตั้งค่าเริ่มต้น คุณสามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าเหล่านี้

ก่อนจะเริ่มต้น

ข้อควรสนใจ
  • การเปลี่ยนที่อยู่ IP ของ XClarity Administrator หลังจากจัดการอุปกรณ์อาจทำให้อุปกรณ์อยู่ในสถานะออฟไลน์ใน XClarity Administrator ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทั้งหมดไม่ได้รับการจัดการก่อนที่จะเปลี่ยนที่อยู่ IP
  • คุณสามารถเปิดใช้งานหรือปิดใช้งานการตรวจสอบที่อยู่ IP ที่ซ้ำกันในซับเน็ตเดียวกันได้โดยคลิกปุ่มสลับ การตรวจสอบที่อยู่ IP ที่ซ้ำกัน ส่วนนี้่จะปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้น เมื่อเปิดใช้งาน XClarity Administrator จะแสดงการแจ้งเตือนหากคุณพยายามแก้ไขที่อยู่ IP ของ XClarity Administrator หรือจัดการอุปกรณ์ที่มีที่อยู่ IP เดียวกันกับอุปกรณ์อื่นที่ได้รับการจัดการ หรืออุปกรณ์อื่นที่พบในซับเน็ตเดียวกัน
    หมายเหตุ
    เมื่อเปิดใช้งาน XClarity Administrator จะเรียกใช้การสแกน ARP เพื่อค้นหาอุปกรณ์ IPv4 ที่ใช้งานอยู่บนซับเน็ตเดียวกัน หากต้องการป้องกันไม่ให้ทำการสแกน ARP ให้ปิดใช้งาน การตรวจสอบที่อยู่ IP ที่ซ้ำกัน
  • เมื่อใช้ XClarity Administrator เป็นอุปกรณ์เสมือน หากอินเทอร์เฟซเครือข่ายสำหรับเครือข่ายการจัดการถูกกำหนดค่าให้ใช้ Dynamic Host Configuration Protocol (DHCP) ที่อยู่ IP ของอินเทอร์เฟซการจัดการอาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อการเช่า DHCP หมดอายุลง หากที่อยู่ IP เปลี่ยน คุณต้องถอนการจัดการตัวเครื่อง เซิร์ฟเวอร์ในแร็คและเซิร์ฟเวอร์แบบทาวเวอร์ แล้วจึงกลับมาจัดการอีกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว ให้เปลี่ยนอินเทอร์เฟซการจัดการเป็นที่อยู่ IP แบบคงที่ หรือไม่ก็ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์ DHCP ได้รับการตั้งค่าตามที่อยู่ DHCP เป็นไปตามที่อยู่ MAC หรือการเช่า DHCP ยังไม่หมดอายุ
  • หากคุณไม่ต้องการใช้ XClarity Administrator เพื่อปรับใช้ระบบปฏิบัติการหรืออัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์ OS คุณสามารถปิดใช้งานเซิร์ฟเวอร์ Samba และ Apache ได้โดยการเปลี่ยนอินเทอร์เฟซเครือข่ายให้ใช้ตัวเลือก ค้นหาและจัดการฮาร์ดแวร์เท่านั้น โปรดทราบว่าเซิร์ฟเวอร์การจัดการจะรีสตาร์ทหลังจากการเปลี่ยนแปลงอินเทอร์เฟซเครือข่าย
  • เมื่อเรียกใช้ XClarity Administrator เป็นคอนเทนเนอร์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครือข่าย macvlan ถูกตั้งค่าบนระบบโฮสต์แล้ว

เกี่ยวกับงานนี้

XClarity Administrator มีอินเทอร์เฟซเครือข่ายต่างหากสองส่วนที่สามารถกำหนดให้กับระบบของคุณได้ ขึ้นอยู่กับโทโพโลยีเครือข่ายที่คุณนำมาใช้ สำหรับอุปกรณ์เสมือน เครือข่ายเหล่านี้มีจะชื่อเป็น eth0 และ eth1 สำหรับคอนเทนเนอร์ คุณสามารถเลือกชื่อที่กำหนดเองได้
  • กรณีที่มีเพียงอินเทอร์เฟซเครือข่ายเดียว (eth0):
    • ต้องกำหนดค่าอินเทอร์เฟซเพื่อสนับสนุนการค้นหาและการจัดการอุปกรณ์ (เช่น การอัปเดตการกำหนดค่าและเฟิร์มแวร์) โดยจะต้องสามารถสื่อสารกับ CMM และสวิตช์ Flex ได้ในแต่ละตัวเครื่องที่มีการจัดการ ตัวควบคุมการจัดการแผงวงจรในเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการจัดการแต่ละเครื่อง และสวิตช์ของ RackSwitch แต่ละเครื่อง
    • หากคุณต้องการขอรับอัปเดตเฟิร์มแวร์และไดรเวอร์อุปกร์ของ OS โดยใช้ XClarity Administrator อินเทอร์เฟซเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งรายการจะต้องมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตด้วย โดยผ่านไฟร์วอลล์หากทำได้ มิฉะนั้น คุณต้องนำเข้าการอัปเดตลงในที่เก็บ
    • หากคุณต้องการเก็บข้อมูลบริการ หรือใช้การแจ้งเตือนปัญหาอัตโนมัติ (รวมถึง Call Home และการอำนวยการอัปโหลด Lenovo) อินเทอร์เฟซเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งรายการจะต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยผ่านไฟร์วอลล์หากทำได้
    • หากคุณต้องการปรับใช้อิมเมจระบบปฏิบัติการและการอัปเดตไดรเวอร์ของ OS อินเทอร์เฟซเครือข่ายจะต้องมีการเชื่อมต่อเครือข่าย IP กับอินเทอร์เฟซเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ในการเข้าถึงระบบปฏิบัติการโฮสต์
      หมายเหตุ
      หากคุณใช้เครือข่ายต่างหากในการปรับใช้ OS และการอัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์ OS คุณสามารถกำหนดค่าอินเทอร์เฟซเครือข่ายที่สองเพื่อให้เชื่อมต่อกับเครือข่ายนั้นได้ แทนที่จะเชื่อมต่อกับเครือข่ายข้อมูล อย่างไรก็ตาม หากระบบปฏิบัติการบนเซิร์ฟเวอร์แต่ละตัวไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเครือข่ายข้อมูล ให้กำหนดค่าอินเทอร์เฟซเพิ่มเติมบนเซิร์ฟเวอร์เพื่อสร้างการเชื่อมต่อจากระบบปฏิบัติการโฮสต์บนเซิร์ฟเวอร์ไปยังเครือข่ายข้อมูลสำหรับการปรับใช้ OS และการอัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์ หากจำเป็น
  • ในกรณีที่มีอินเทอร์เฟซเครือข่ายสองตัว (eth0 และ eth1):
    • อินเทอร์เฟซเครือข่ายแรก (โดยปกติคืออินเทอร์เฟซ Eth0) จะต้องเชื่อมต่อกับเครือข่ายการจัดการ และกำหนดค่าให้สนับสนุนการค้นหาและการจัดการอุปกรณ์ (รวมถึงการกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์และการอัปเดตเฟิร์มแวร์ โดยจะต้องสามารถสื่อสารกับ CMM และสวิตช์ Flex ได้ในแต่ละตัวเครื่องที่มีการจัดการ ตัวควบคุมการจัดการในเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการจัดการแต่ละเครื่อง และสวิตช์ของ RackSwitch แต่ละเครื่อง
    • อินเทอร์เฟซเครือข่ายที่สอง (โดยทั่วไปคืออินเทอร์เฟซ eth1) จะสามารถกำหนดค่าให้สื่อสารกับเครือข่ายข้อมูลภายใน เครือข่ายข้อมูลสาธารณะ หรือทั้งสองเครือข่าย
    • หากคุณต้องการขอรับอัปเดตเฟิร์มแวร์และไดรเวอร์อุปกร์ของ OS โดยใช้ XClarity Administrator อินเทอร์เฟซเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งรายการจะต้องมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตด้วย โดยผ่านไฟร์วอลล์หากทำได้ มิฉะนั้น คุณต้องนำเข้าการอัปเดตลงในที่เก็บ
    • หากคุณต้องการเก็บข้อมูลบริการ หรือใช้การแจ้งเตือนปัญหาอัตโนมัติ (รวมถึง Call Home และการอำนวยการอัปโหลด Lenovo) อินเทอร์เฟซเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งรายการจะต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยผ่านไฟร์วอลล์หากทำได้
    • หากคุณต้องการปรับใช้อิมเมจระบบปฏิบัติการและการอัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์ OS คุณสามารถเลือกที่จะใช้อินเทอร์เฟซ eth1 หรือ eth0 ได้ อย่างไรก็ตาม อินเทอร์เฟซที่คุณใช้ต้องมีการเชื่อมต่อเครือข่าย IP กับอินเทอร์เฟซเซิร์ฟเวอร์เครือข่ายที่ใช้เพื่อเข้าถึงระบบปฏิบัติการโฮสต์
      หมายเหตุ
      หากคุณใช้เครือข่ายต่างหากในการปรับใช้ OS และการอัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์ OS คุณสามารถกำหนดค่าอินเทอร์เฟซเครือข่ายที่สองเพื่อให้เชื่อมต่อกับเครือข่ายนั้นได้ แทนที่จะเชื่อมต่อกับเครือข่ายข้อมูล อย่างไรก็ตาม หากระบบปฏิบัติการบนเซิร์ฟเวอร์แต่ละตัวไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเครือข่ายข้อมูล ให้กำหนดค่าอินเทอร์เฟซเพิ่มเติมบนเซิร์ฟเวอร์เพื่อสร้างการเชื่อมต่อจากระบบปฏิบัติการโฮสต์บนเซิร์ฟเวอร์ไปยังเครือข่ายข้อมูลสำหรับการปรับใช้ OS และการอัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์ หากจำเป็น
ตารางต่อไปนี้แสดงการกำหนดค่าที่เป็นไปได้สำหรับอินเทอร์เฟซเครือข่าย XClarity Administrator ตามประเภทของโทโพโลยีเครือข่ายที่นำมาใช้งานในระบบของคุณ ใช้ตารางนี้เพื่อระบุวิธีการกำหนดอินเทอร์เฟซเครือข่ายแต่ละรายการ
ตารางที่ 1. บทบาทของอินเทอร์เฟซเครือข่ายแต่ละรายการตามโทโพโลยีเครือข่าย
โทโพโลยีเครือข่ายบทบาทของอินเทอร์เฟซ 1 (eth0)บทบาทของอินเทอร์เฟซ 2 (eth1)
เครือข่าย Converged (การจัดการและเครือข่ายข้อมูลที่รองรับการปรับใช้ OS และการอัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์ของ OS)เครือข่ายการจัดการ
  • การค้นหาและการจัดการ
  • การกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์
  • การอัปเดตเฟิร์มแวร์
  • การรวบรวมข้อมูลบริการ
  • การแจ้งเตือนปัญหาอัตโนมัติ (เช่น Call Home และการอำนวยการอัปโหลด Lenovo)
  • การดึงข้อมูลการรับประกัน
  • การปรับใช้ OS
  • การอัปเดตไดรเวอร์ OS
ไม่มี
แยกเครือข่ายการจัดการที่มีการสนับสนุนการปรับใช้ OS และการอัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์ของ OS และเครือข่ายข้อมูลเครือข่ายการจัดการ
  • การค้นหาและการจัดการ
  • การกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์
  • การอัปเดตเฟิร์มแวร์
  • การรวบรวมข้อมูลบริการ
  • การแจ้งเตือนปัญหาอัตโนมัติ (เช่น Call Home และการอำนวยการอัปโหลด Lenovo)
  • การดึงข้อมูลการรับประกัน
  • การปรับใช้ OS
  • การอัปเดตไดรเวอร์ OS
เครือข่ายข้อมูล
  • ไม่มี
แยกเครือข่ายการจัดการและเครือข่ายข้อมูลที่มีการสนับสนุนการปรับใช้ OS และการอัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์ของ OSเครือข่ายการจัดการ
  • การค้นหาและการจัดการ
  • การกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์
  • การอัปเดตเฟิร์มแวร์
  • การรวบรวมข้อมูลบริการ
  • การแจ้งเตือนปัญหาอัตโนมัติ (เช่น Call Home และการอำนวยการอัปโหลด Lenovo)
  • การดึงข้อมูลการรับประกัน
เครือข่ายข้อมูล
  • การปรับใช้ OS
  • การอัปเดตไดรเวอร์ OS
แยกเครือข่ายการจัดการและเครือข่ายข้อมูลที่ไม่มีการสนับสนุนการปรับใช้ OS และการอัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์ของ OSเครือข่ายการจัดการ
  • การค้นหาและการจัดการ
  • การกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์
  • การอัปเดตเฟิร์มแวร์
  • การรวบรวมข้อมูลบริการ
  • การแจ้งเตือนปัญหาอัตโนมัติ (เช่น Call Home และการอำนวยการอัปโหลด Lenovo)
  • การดึงข้อมูลการรับประกัน
เครือข่ายข้อมูล
  • ไม่มี
เฉพาะเครือข่ายการจัดการเท่านั้น (ไม่สนับสนุนการปรับใช้ OS และการอัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์ของ OS)เครือข่ายการจัดการ
  • การค้นหาและการจัดการ
  • การกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์
  • การอัปเดตเฟิร์มแวร์
  • การรวบรวมข้อมูลบริการ
  • การแจ้งเตือนปัญหาอัตโนมัติ (เช่น Call Home และการอำนวยการอัปโหลด Lenovo)
  • การดึงข้อมูลการรับประกัน
ไม่มี

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอินเทอร์เฟซเครือข่าย XClarity Administrator รวมทั้งข้อจำกัดของที่อยู่ IPv6 โปรดดู ข้อควรพิจารณาด้านเครือข่าย

ขั้นตอน

เพื่อกำหนดค่าสิทธิ์เข้าถึงเครือข่าย ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. จากแถบเมนู XClarity Administrator ให้คลิก การดูแลระบบ > การเข้าถึงเครือข่าย การตั้งค่าเครือข่ายปัจจุบันจะปรากฏขึ้น
  2. เลือกที่จะเปิดใช้งานการตรวจสอบที่อยู่ IP ที่ซ้ำกันในซับเน็ตเดียวกันได้โดยคลิกปุ่มสลับ การตรวจสอบที่อยู่ IP ที่ซ้ำกัน

    เมื่อเปิดใช้งาน XClarity Administrator จะแสดงการแจ้งเตือนหากคุณพยายามแก้ไขที่อยู่ IP ของ XClarity Administrator หรือจัดการอุปกรณ์ที่มีที่อยู่ IP เดียวกันกับอุปกรณ์อื่นที่ได้รับการจัดการ หรืออุปกรณ์อื่นที่พบในซับเน็ตเดียวกัน

  3. คลิก แก้ไขการเข้าถึงเครือข่าย เพื่อแสดงหน้า แก้ไขการเข้าถึงเครือข่าย

    แสดงหน้าแก้ไขการเข้าถึงเครือข่าย
  4. หากคุณต้องการปรับใช้ระบบปฏิบัติการและอัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์ของ OS โดยใช้ XClarity Administrator ให้เลือกอินเทอร์เฟสเครือข่ายที่จะใช้สำหรับการจัดการระบบปฏิบัติการ
    • หากมีการกำหนดอินเทอร์เฟซเพียงหนึ่งรายการสำหรับ XClarity Administrator ให้เลือกว่าจะใช้อินเทอร์เฟซนั้นเพื่อค้นหาและจัดการฮาร์ดแวร์เท่านั้น หรือจะใช้เพื่อจัดการระบบปฏิบัติการด้วย

    • หากกำหนดอินเทอร์เฟซสองรายการให้กับ XClarity Administrator (Eth0 และ Eth1) ให้กำหนดว่าจะใช้อินเทอร์เฟซใดในการจัดการระบบปฏิบัติการ หากคุณเลือก ไม่มี คุณจะไม่สามารถปรับใช้อิมเมจระบบปฏิบัติการ หรืออัปเดตไดรเวอร์อุปกรณ์ OS กับเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการจัดการจาก XClarity Administrator

  5. (XClarity Administrator เป็นอุปกรณ์เสมือนเท่านั้น) แก้ไขการตั้งค่า IP
    1. สำหรับอินเทอร์เฟซแรก ให้ระบุที่อยู่ IPv4, ที่อยู่ IPv6 หรือทั้งคู่
      • IPv4 คุณต้องกำหนดที่อยู่ IPv4 ให้กับอินเทอร์เฟซ คุณสามารถเลือกที่จะใช้ที่อยู่ IP ที่กำหนดแบบคงที่ หรือเลือกรับที่อยู่ IP จากเซิร์ฟเวอร์ DHCP
      • IPv6 หรือคุณสามารรถกำหนดที่อยู่ IPv6 ให้กับอินเทอร์เฟซโดยใช้การกำหนดวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
        • ใช้ที่อยู่ IP ที่กำหนดแบบคงที่
        • ใช้การกำหนดค่าที่อยู่แบบมีสถานะ (DHCPv6)
        • ใช้การกำหนดค่าที่อยู่อัตโนมัติแบบสุ่ม
        หมายเหตุ
        สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการจำกัดที่อยู่ IPv6 โปรดดู ข้อจำกัดของการกำหนดค่า IP
    2. หากมีอินเทอร์เฟซที่สอง ให้ระบุที่อยู่ IPv4, ที่อยู่ IPv6 หรือทั้งคู่
      หมายเหตุ
      ที่อยู่ IP ที่กำหนดให้กับอินเทอร์เฟซนี้ต้องอยู่ในซับเน็ตอื่นที่ไม่ได้มาจากที่อยู่ IP ที่กำหนดให้กับอินเทอร์เฟซแรก หากคุณเลือกที่จะใช้ DHCP ในการกำหนดที่อยู่ IP ของอินเทอร์เฟซทั้งสอง (Eth0 และ Eth1) เซิร์ฟเวอร์ DHCP ต้องกำหนดซับเน็ตเดียวกันสำหรับที่อยู่ IP ของอินเทอร์เฟซสองรายการ
      • IPv4 คุณสามารถเลือกที่จะใช้ที่อยู่ IP ที่กำหนดแบบคงที่ หรือเลือกรับที่อยู่ IP จากเซิร์ฟเวอร์ DHCP
      • IPv6 หรือคุณสามารรถกำหนดที่อยู่ IPv6 ให้กับอินเทอร์เฟซโดยใช้การกำหนดวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
        • ใช้ที่อยู่ IP ที่กำหนดแบบคงที่
        • ใช้การกำหนดค่าที่อยู่แบบมีสถานะ (DHCPv6)
        • ใช้การกำหนดค่าที่อยู่อัตโนมัติแบบสุ่ม
    3. ระบุเกตเวย์เริ่มต้น

      หากคุณระบุเกตเวย์เริ่มต้น เกตเวย์นั้นจะต้องเป็นที่อยู่ IP ที่ถูกต้องและต้องใช้มาสก์เครือข่ายเดียวกัน (ซับเน็ตเดียวกัน) กับที่อยู่ IP สำหรับหนึ่งในอินเทอร์เฟซเครือข่าย (Eth0 หรือ Eth1) หากคุณใช้อินเทอร์เฟซเดียว เกตเวย์เริ่มต้นจะต้องอยูบนซับเน็ตเดียวกันกับอินเทอร์เน็ตเครือข่าย

      หาอินเทอร์เฟซตัวใดตัวหนึ่งใช้ DHCP เพื่อรับที่อยู่ IP เกตเวย์เริ่มต้นจะใช้ DHCP ด้วย หากต้องการป้อนที่อยู่เกตเวย์เริ่มต้นด้วยตนเอง ซึ่งแทนที่ที่อยู่ที่ได้รับจากเซิร์ฟเวอร์ DHCP ให้เลือกช่องทำเครื่องหมาย แทนที่เกตเวย์

      คำแนะนำ
      • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเกตเวย์ตรงกับเครือข่ายย่อยของอินเทอร์เฟซเครือข่ายตัวใดตัวหนึ่ง เกตเวย์เริ่มต้นจะได้รับการตั้งค่าผ่านอินเทอร์เฟซเครือข่ายโดยอัตโนมัติ

      • หากต้องการกลับสู่เกตเวย์ที่ DHCP ระบุไว้ ให้ล้างช่องทำเครื่องหมาย แทนที่เกตเวย์

      ข้อควรระวัง
      หากคุณเลือกที่จะแทนที่เกตเวย์ โปรดใช้ความระมัดระวังในการป้อนที่อยู่เกตเวย์ที่ถูกต้อง มิฉะนั้นเซิร์ฟเวอร์การจัดการนี้จะไม่สามารถเข้าถึงได้ และไม่สามารถเข้าสู่ระบบจากระยะไกลเพื่อแก้ไขได้
    4. คลิก บันทึกการตั้งค่า IP
  6. (XClarity Administrator เป็นอุปกรณ์เสมือนเท่านั้น) เลือกที่จะแก้ไขการตั้งค่าขั้นสูง
    1. คลิกแท็บ การกำหนดเส้นทางขั้นสูง

      แสดงหน้าแก้ไขการเข้าถึงเครือข่าย
    2. ระบุรายการเส้นทางอย่างน้อยหนึ่งรายการในตาราง การตั้งค่าเส้นทางขั้นสูง ที่อินเทอร์เฟซนี้จะใช้
      ในการกำหนดรายการเส้นทางอย่างน้อยหนึ่งรายการ ให้ดำเนินการขั้นตอนต่อไปนี้
      1. เลือกอินเทอร์เฟซ
      2. ระบุประเภทเส้นทาง ซึ่งสามารถเป็นเส้นทางไปยังโฮสต์อื่นหรือไปยังเครือข่าย
      3. ระบุโฮสต์ปลายทางหรือที่อยู่เครือข่ายที่คุณจะกำหนดเส้นทางไป
      4. ระบุซับเน็ตมาสก์สำหรับที่อยู่ปลายทาง
      5. ระบุที่อยู่เกตเวย์ที่จะกำหนดที่อยู่แพ็คเก็ตให้
    3. คลิก บันทึกการกำหนดเส้นทางขั้นสูง
  7. สามารถเลือกที่จะปรับเปลี่ยนการตั้งค่า DNS และพร็อกซีได้

    เมื่อตั้งค่า XClarity Administrator เป็นคอนเทนเนอร์ จะสามารถแก้ไขเฉพาะการตั้งค่าพร็อกซีจากเว็บอินเทอร์เฟซเท่านั้น การตั้งค่า DNS จะถูกกําหนดในคอนเทนเนอร์

    1. คลิกแท็บ DNS และพร็อกซี

      แสดงหน้าแก้ไขการเข้าถึงเครือข่าย
    2. ระบุชื่อโฮสต์และชื่อโดเมนที่จะใช้สำหรับ XClarity Administrator
    3. เลือกโหมดการทำงานของ DNS โดยสามารถระบุเป็น แบบคงที่ หรือ DHCP
      ข้อควรสนใจ
      คุณต้องเริ่มระบบเซิร์ฟเวอร์การจัดการใหม่เมื่อคุณเปลี่ยนโหมดการดำเนินการ DNS
      หมายเหตุ
      หากคุณเลือกที่จะใช้เซิร์ฟเวอร์ DHCP เพื่อรับที่อยู่ IP การเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่คุณทำกับฟิลด์ เซิร์ฟเวอร์ DNS จะถูกเขียนทับในครั้งถัดไปที่ XClarity Administrator ต่ออายุการเช่า DHCP
    4. ระบุที่อยู่ IP ของ Domain Name System (DNS) อย่างน้อยหนึ่งรายการที่จะใช้และลำดับความสำคัญสำหรับแต่ละรายการ
    5. ระบุว่าการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตโดยใช้การเชื่อมต่อโดยตรงหรือพร็อกซี HTTP (หาก XClarity Administrator มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต)
      หมายเหตุ
      ให้ใช้พร็อกซี HTTP ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนดต่อไปนี้
      • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์พร็อกซีให้ใช้การการตรวจสอบความถูกต้องพื้นฐาน

      • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์พร็อกซีเป็นพร็อกซีที่ไม่สิ้นสุด

      • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์พร็อกซีเป็นพร็อกซีส่งต่อ

      • ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการกำหนดค่าให้โหลดบาลานเซอร์เก็บเซสชันไว้กับเซิร์ฟเวอร์พร็อกซีหนึ่งตัว และไม่มีการสลับไปมา

      หากคุณเลือกที่จะใช้พร็อกซี HTTP ให้กรอกฟิลด์ที่จำเป็นต่อไปนี้

      1. ระบุชื่อโฮสต์เซิร์ฟเวอร์พร็อกซีและพอร์ต

      2. เลือกว่าจะใช้การตรวจสอบความถูกต้องหรือไม่ และระบุชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านหากจำเป็น

      3. ระบุ URL ทดสอบพร็อกซี

      4. คลิก ทดสอบพร็อกซี เพื่อตรวจสอบว่าการตั้งค่าพร็อกซีได้รับการกำหนดค่าและทำงานอย่างถูกต้องหรือไม่

    6. คลิก บันทึก DNS และพร็อกซี
    7. ทางเลือก: พุชชื่อโดเมนแบบเต็ม (FQDN) ของเซิร์ฟเวอร์การจัดการ XClarity Administrator และข้อมูล DNS เพื่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่มีการจัดการ ซึ่งมี IMM2, XCC และ XCC2 เพื่อให้เซิร์ฟเวอร์ที่มีการจัดการสามารถค้นหาเซิร์ฟเวอร์การจัดการโดยใช้ข้อมูลนี้
      1. คลิก พุช FQDN / DNS ไปยัง BMC

      2. เลือกวิธีการจัดการรายการ DNS ที่มีอยู่ในตัวควบคุมการจัดการแผงวงจร

        • เก็บรายการ DNS ที่มีอยู่ไว้ และต่อท้ายรายการ DNS ของเซิร์ฟเวอร์การจัดการลงในช่องว่างถัดไป

        • เปลี่ยนรายการ DNS ที่มีอยู่ทั้งหมดด้วยรายการ DNS ของเซิร์ฟเวอร์การจัดการ

      3. พิมพ์ YES ในฟิลด์แก้ไข

      4. คลิก ใช้

      มีการสร้างงานขึ้นเพื่อการดำเนินการนี้ คุณสามารถตรวจสอบความคืบหน้าของงานจากการ์ด การตรวจสอบ > งาน หากงานไม่เสร็จสมบูรณ์ ให้คลิกลิงก์งานเพื่อแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับงาน (ดู การทำงานกับงาน)

      คุณยังสามารถลบข้อมูล FQDN ของเซิร์ฟเวอร์การจัดการและ DNS ออกจากเซิร์ฟเวอร์ที่มีการจัดการซึ่งมี IMM2, XCC และ XCC2 ได้ด้วยการคลิก นำ FQDN / DNS ออกจาก BMC คุณสามารถเลือกเก็บรายการ DNS ที่มีอยู่อื่นๆ ไว้, ลบรายการ DNS ทั้งหมด หรือลบเฉพาะรายการที่ตรงกับข้อมูลเซิร์ฟเวอร์การจัดการ

  8. คลิก รีสตาร์ท เพื่อรีสตาร์ทเซิร์ฟเวอร์การจัดการ
  9. คลิก ทดสอบการเชื่อมต่อ เพื่อตรวจสอบการตั้งค่าเครือข่าย