การปรับใช้ RHEL และแอปพลิเคชัน PHP Hello World โดยใช้ไฟล์แบบอัตโนมัติที่กำหนดเอง

สถานการณ์จำลองนี้จะติดตั้งระบบปฏิบัติการ RHEL พร้อมกับซอฟต์แวร์แบบกำหนดเอง (Apache HTTP, PHP และแอปพลิเคชัน PHP Hello-World) จะมีการใช้โปรไฟล์อิมเมจ OS แบบกำหนดเองที่ประกอบด้วยไฟล์แบบอัตโนมัติที่กำหนดเองที่ลงทะเบียนระบบปฏิบัติการด้วยบริการสมัครรับข้อมูล Lenovo RHEL ภายใน เพื่อให้สามารถใช้ที่เก็บ Yum, ติดตั้งแพคเกจ Apache และ PHP, กำหนดค่าไฟร์วอลล์เพื่ออนุญาตการเชื่อมต่อ Apache, สร้างแอปพลิเคชัน PHP Hello World และคัดลอกไปยังไดเรกทอรีเว็บเซิร์ฟเวอร์ Apache และกำหนดค่าไฟล์การกำหนดค่า Apache เพื่อรองรับ PHP

ขั้นตอน

ในการปรับใช้งาน RHEL ที่มีซอฟต์แวร์แบบกำหนดเองโดยใช้ไฟล์แบบอัตโนมัติที่กำหนดเอง ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. ดาวน์โหลดระบบปฏิบัติการ RHEL พื้นฐานจากเว็บไซต์ Red Hat ลงในระบบภายในเครื่อง แล้วนำเข้าอิมเมจไปยังที่เก็บข้อมูลอิมเมจ OS สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู การนำเข้าอิมเมจระบบปฏิบัติการ

   1. จากแถบเมนู XClarity Administrator ให้คลิก การเตรียมใช้งาน > จัดการอิมเมจ OS เพื่อแสดงหน้า ปรับใช้ระบบปฏิบัติการ: จัดการอิมเมจ OS

   2. คลิกแท็บ อิมเมจ OS

   3. คลิกไอคอน นำเข้า ()

   4. คลิก นำเข้าจากระบบภายใน

   5. คลิก เรียกดู เพื่อหาและเลือกอิมเมจ RHEL ที่จะนำเข้า (เช่น RHEL-<ver>-<date>-Server-x86_64-dvd1.iso)

   6. คลิก นำเข้า เพื่ออัปโหลดอิมเมจไปยังที่เก็บข้อมูลอิมเมจ OS

   7. รอให้การนำเข้าเสร็จสมบูรณ์ ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาสักครู่

2. แก้ไขไฟล์แบบอัตโนมัติของ RHEL (kickstart) เพื่อลงทะเบียนระบบปฏิบัติการกับบริการสมัครใช้งาน RHEL satellite, ติดตั้งแพคเกจ HTTP (Apache) และ PHP และสร้างแอปพลิเคชัน PHP Hello World แบบง่ายๆ, เพิ่มมาโครแบบกำหนดไว้ล่วงหน้าที่ต้องการและมาโครแบบกำหนดไว้ล่วงหน้าอื่นๆ ถ้าจำเป็น เช่น การตั้งค่าที่อยู่ IP, เกตเวย์, DNS และชื่อโฮสต์ แล้วนำเข้าไฟล์แบบกำหนดเองไปยังที่เก็บอิมเมจ OS สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู การนำเข้าไฟล์แบบอัตโนมัติแบบกำหนดเอง
   เพิ่มคำสั่งเพื่อลงทะเบียนโฮสต์ที่มี RHEL satellite เช่น:

   rpm -Uvh http://<YOUR_SATELLITE_SERVER_IP>/pub/katello-ca-consumer-latest.noarch.rpm
   subscription-manager register --org="<YOUR_ORGANIZATION>" --activationkey="RHEL_Base" --force
   subscription-manager repos --enable rhel-7-server-rpms
   
   

   สำคัญ

   ในไฟล์แบบอัตโนมัติตัวอย่างนี้ ให้ระบุที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ satellite และองค์กรของคุณตามการกำหนดค่าบริการสมัครใช้งานของเรา

   เพิ่มคำสั่งเพื่ออัปเดตโฮสต์ และติดตั้งและกำหนดค่าแพคเกจ apache และ php เช่น:

   %packages
   @base
   @core
   @fonts
   @gnome-desktop
   @internet-browser
   @multimedia
   @x11
   @print-client
   -gnome-initial-setup
   
   #Add the Apache and PHP packages
   httpd
   mod_ssl 
   openssl 
   php 
   php-mysql 
   php-gd 
   %end 
   
   yum -y update
   
   systemctl enable httpd.service
   
   firewall-cmd --permanent --zone=public --add-service=http 
   firewall-cmd --permanent --zone=public --add-service=https
   firewall-cmd --reload
   
   echo "<?PHP 
   echo 'Hello World !! ';
   ?>" | tee /var/www/html/index.php
   
   sudo cp /etc/httpd/conf/httpd.conf /etc/httpd/conf/httpd.conf.original
   
   sudo sed -i -e 's/^[ \t]*//' /etc/httpd/conf/httpd.conf
   sudo sed -i "s|IncludeOptional|#IncludeOptional|" /etc/httpd/conf/httpd.conf
   sudo sed -i "s|#ServerName www.example.com:80|ServerName localhost|" /etc/httpd/conf/httpd.conf
   sudo sed -i "s|DirectoryIndex index.html|DirectoryIndex index.html index.php|" /etc/httpd/conf/httpd.conf
   
   echo "AddType application/x-httpd-php .php" | tee -a /etc/httpd/conf/httpd.conf
   

   หมายเหตุ

   ไฟล์แบบอัตโนมัติตัวอย่างจะแก้ไขแพคเกจเริ่มต้นที่ได้รับการติดตั้งกับไฟล์ kickstart โดยจะระบุแพคเกจ Apache และ PHO เป็นส่วนหนึ่งของส่วน %packages

   สำหรับ ESXi และ RHEL เท่านั้น XClarity Administrator จะมีมาโคร #predefined.unattendSettings.networkConfig# ซึ่งจะเพิ่มการตั้งค่าเครือข่ายทั้งหมดที่ได้รับการกำหนดใน UI ไปยังไฟล์แบบอัตโนมัติ และมาโคร #predefined.unattendSettings.storageConfig# ซึ่งจะเพิ่มการตั้งค่าที่จัดเก็บทั้งหมดที่ได้รับการกำหนดใน UI ไปยังไฟล์แบบอัตโนมัติ ไฟล์แบบอัตโนมัติตัวอย่างมีมาโครเหล่านี้อยู่แล้ว

   XClarity Administrator ยังมีมาโครเพื่ออำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน เช่น การใส่ไดรเวอร์ OOB การรายงานสถานะ สคริปต์หลังการติดตั้ง และซอฟต์แวร์แบบกำหนดเอง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม คุณต้องระบุมาโครต่อไปนี้ในไฟล์แบบอัตโนมัติที่กำหนดเอง เพื่อใช้ประโยชน์จากมาโครที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเหล่านี้ ไฟล์ตัวอย่างมีมาโครที่จำเป็นต้องใช้อยู่แล้ว

   #predefined.unattendSettings.preinstallConfig#
   #predefined.unattendSettings.postinstallConfig#
   

   ไฟล์ตัวอย่างประกอบด้วยมาโครที่จำเป็นและมาโครแบบกำหนดไว้ล่วงหน้าเพิ่มเติมสำหรับการระบุการตั้งค่าเครือข่ายแบบไดนามิกสำหรับเซิร์ฟเวอร์และโซนเวลาเป้าหมาย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มมาโครในไฟล์แบบอัตโนมัติ โปรดดู การใส่มาโครแบบกำหนดไว้ล่วงหน้าและแบบกำหนดเองในไฟล์แบบอัตโนมัติ

   คุณสามารถเพิ่มความคิดเห็นเพื่อส่งข้อความแบบกำหนดเองไปที่บันทึกงานใน XClarity Administrator สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู การเพิ่มการรายงานสถานะแบบกำหนดเองในสคริปต์การติดตั้ง

   ในการนำเข้าถึงสคริปต์การตั้งค่าแบบกำหนดเอง ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู การนำเข้าสคริปต์การติดตั้งแบบกำหนดเอง

   ในการนำเข้าไฟล์แบบอัตโนมัติที่กำหนดเอง ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้

   1. คลิกแท็บ ไฟล์แบบอัตโนมัติ

   2. คลิกไอคอน นำเข้า ()

   3. คลิก นำเข้าจากระบบภายใน

   4. เลือก RHEL เป็นระบบปฏิบัติการ

   5. คลิก เรียกดู เพื่อค้นหาและเลือกไฟล์ซอฟต์แวร์ที่จะนำเข้า (เช่น RHEL_installSoftware_customUnattend.cfg)

   6. คลิก นำเข้า เพื่ออัปโหลดไฟล์ไปยังที่เก็บข้อมูลอิมเมจ OS

3. สร้างโปรไฟล์อิมเมจ OS ที่ประกอบด้วยซอฟต์แวร์แบบกำหนดเองและสคริปต์หลังการติดตั้ง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู การสร้างโปรไฟล์อิมเมจ OS แบบกำหนดเอง

   1. คลิกแท็บ อิมเมจ OS

   2. เลือกโปรไฟล์อิมเมจ OS ที่จะปรับแต่ง (เช่น Basic)

   3. คลิกไอคอน สร้าง () เพื่อแสดงกล่องโต้ตอบสร้างโปรไฟล์ที่กำหนดเอง

   4. บนแท็บ ทั่วไป:

      1. ป้อนชื่อสำหรับโปรไฟล์ (ตัวอย่างเช่น RHEL แบบกำหนดเองพร้อมซอฟต์แวร์ที่ใช้ไฟล์แบบอัตโนมัติที่กำหนดเอง)

      2. ใช้ค่าเริ่มต้นสำหรับฟิลด์ พาธข้อมูลและไฟล์แบบกำหนดเอง

      3. เลือกประเภทการกำหนดเองเป็น ไฟล์แบบอัตโนมัติเท่านั้น

      4. คลิก ถัดไป

   5. บนแท็บ ตัวเลือกไดรเวอร์ ให้คลิก ถัดไป โดยค่าเริ่มต้นจะมีไดรเวอร์อุปกรณ์ในตัวมาให้

   6. บนแท็บ ซอฟต์แวร์ ให้คลิก ถัดไป

   7. ในแท็บ ไฟล์แบบอัตโนมัติ ให้เลือกไฟล์แบบอัตโนมัติที่กำหนด (เช่น RHEL_installSoftware_customUnattend.cfg) แล้วคลิก ถัดไป

   8. บนแท็บ สคริปต์การติดตั้ง ให้คลิก ถัดไป

   9. บนแท็บ สรุป ให้ตรวจสอบการตั้งค่า

   10. คลิก กำหนดเอง เพื่อสร้างโปรไฟล์อิมเมจ OS ที่กำหนดเอง

4. ปรับใช้โปรไฟล์อิมเมจ OS ที่กำหนดเองกับเซิร์ฟเวอร์เป้าหมาย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู การปรับใช้อิมเมจระบบปฏิบัติการ

   1. จากแถบเมนู XClarity Administrator ให้คลิก การเตรียมใช้งาน > ปรับใช้อิมเมจ OS เพื่อแสดงหน้า ปรับใช้ระบบปฏิบัติการ: ปรับใช้อิมเมจ OS

   2. สำหรับเซิร์ฟเวอร์เป้าหมายแต่ละเครื่อง ให้ทำดังนี้

      1. เลือกเซิร์ฟเวอร์

      2. คลิก เปลี่ยนรายการที่เลือก > การตั้งค่าเครือข่าย และระบุชื่อโฮสต์, ที่อยู่ IP, การตั้งค่า DNS, MTU และ VLAN สำหรับเซิร์ฟเวอร์

         คำแนะนำ

         • การตั้งค่า VLAN จะพร้อมใช้งานก็ต่อเมื่อมีการตั้งค่าโหมด VLAN ใน การตั้งค่าส่วนกลาง > การกำหนด IP > ใช้ VLANs

         • ระบบจะเพิ่มการตั้งค่าเครือข่ายที่คุณระบุในกล่องโต้ตอบการตั้งค่าเครือข่ายลงในไฟล์แบบอัตโนมัติขณะรันไทม์โดยใช้มาโคร #predefined.hostPlatforms.networkSettings.<setting>#

      3. เลือกโปรไฟล์อิมเมจ OS แบบกำหนดเอง (เช่น <base_OS>|<timestamp>_RHEL แบบกำหนดเองพร้อมซอฟต์แวร์ที่ใช้ไฟล์แบบอัตโนมัติที่กำหนดเอง) จากรายการดรอปดาวน์ในคอลัมน์ อิมเมจที่จะปรับใช้

         หมายเหตุ

         ตรวจสอบว่าเซิร์ฟเวอร์เป้าหมายทั้งหมดใช้โปรไฟล์แบบกำหนดเองตัวเดียวกัน

      4. (ไม่บังคับ) คลิกไอคอน หมายเลขใบอนุญาต () และระบุหมายเลขใบอนุญาตที่จะใช้เพื่อเปิดใช้ระบบปฏิบัติการหลังจากที่ติดตั้งแล้ว

      5. เลือกตำแหน่งที่จัดเก็บที่ต้องการปรับใช้อิมเมจระบบปฏิบัติการจากคอลัมน์ ที่จัดเก็บ

         หมายเหตุ

         เพื่อให้การปรับใช้ระบบปฏิบัติการประสบผลสำเร็จ ให้ถอดที่จัดเก็บทั้งหมดออกจากเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการจัดการ ยกเว้นที่จัดเก็บที่เลือกไว้สำหรับการปรับใช้ระบบปฏิบัติการ

      6. ยืนยันว่าการปรับใช้สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่เลือกไว้มีสถานะเป็น พร้อม

   3. เลือกเซิร์ฟเวอร์เป้าหมายทั้งหมด แล้วคลิกไอคอน ปรับใช้อิมเมจ () เพื่อเริ่มต้นการปรับใช้ระบบปฏิบัติการ

   4. บนแท็บการตั้งค่าที่กำหนดเอง ให้คลิกแท็บย่อย การตั้งค่าโหมดอัตโนมัติและการกำหนดค่า และเลือกไฟล์อัตโนมัติที่กำหนดเอง (เช่น RHEL_installSoftware_customUnattend.cfg)

      
      
      

   5. บนแท็บ สรุป ให้ตรวจสอบการตั้งค่า

   6. คลิก ปรับใช้ เพื่อปรับใช้ระบบปฏิบัติการ